20 อย่างที่คริสเตียนควรอธิษฐานเผื่อศิษยาภิบาลของตน

ครั้งสุดท้ายที่คุณอธิษฐานเผื่อศิษยาภิบาลของตนเองคือเมื่อไหร่? ถ้าประสิทธิภาพและประสิทธิผลในชีวิตการรับใช้ของเขาขึ้นอยู่กับการอธิษฐานของคุณ เขาจะเป็นอย่างไร? ถึงแม้ว่าการเป็นศิษยาภิบาลนั้นจะเป็นการทรงเรียกจากพระเจ้าที่ทรงเกียรติและยิ่งใหญ่(1 ทิโมธี 3:1) แต่ว่าเป็นหน้าที่ที่ท้าทายเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ การอธิษฐานเผื่อศิษยาภิบาลจึงเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในโลกอย่างหนึ่งที่พี่น้องจะให้กับเขาได้ นี่คือ 20 อย่างคร่าวๆ ที่คริสเตียนทุกคนควรอธิษฐานเผื่อศิษยาภิบาลของตน

  1. การเตรียมคำเทศนา
    • อธิษฐานเผื่อเขาในการเตรียมคำสอนและคำเทศนาที่จะสอนในแต่ละอาทิตย์(2 ทิโมธี 4:2) ขอให้พระเจ้าประทานสติปัญญาที่มาจากพระเจ้าในการเข้าใจพระคำและวิธีในการอธิบายความจริงนั้นกับคนในคริสตจักร
  2. คำเทศนา
    • อธิษฐานขอให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงอยู่กับเขาทุกครั้งที่เขายืนขึ้นและเทศนา (กิจการ 4:8-12; กิจการ 6:10) ขอพระองค์ทรงใช้เขาอย่างยิ่งใหญ่ ใครก็ยืนขึ้นและพูดได้ แต่ฤทธิ์เดชในการเปลี่ยนแปลงชีวิตมาจากพระองค์
  3. การเติบโตทางฝ่ายจิตวิญญาณ
    • อธิษฐานเผื่อที่พระเจ้าจะช่วยให้เขาเติบโตทางฝ่ายจิตวิญญาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ด้าน (2 เปโตร 3:18) ถ้าตัวศิษยาภิบาลเองไม่เติบโตด้านฝ่ายจิตวิญญาณเลย ความหวังและความเป็นไปได้ในการเติบโตของคริสตจักรและสมาชิกนั้นมีน้อยมาก
  4. จิตใจที่บริสุทธิ์
    • อธิษฐานเผื่อที่พระเจ้าจะปกป้องจิตใจและความคิดของเขาให้ใสสะอาดและบริสุทธิ์อยู่เสมอ (1 เธสะโลนิกา 4:4; มัทธิว 5:8) อาจจะเป็นการปกป้องเขาจากสิ่งที่เขาอ่าน ดู ฟัง หรือคิดในแต่ละวัน
  5. ชีวิตการอธิษฐาน
    • อธิษฐานเผื่อที่เขาจะใช้เวลากับพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอผ่านทางการอธิษฐาน (1 เธสะโลนิกา 5:17) จะเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันอย่างมากถ้าคนที่ทำงานรับใช้พระเจ้าและสอนความจริงเกี่ยวกับพระองค์ไม่ใช้เวลากับพระองค์ในแต่วัน อธิษฐานเผื่อที่เขาจะไม่ละเลยชีวิตการอธิษฐาน
  6. ชีวิตครอบครัว
    • อธิษฐานเผื่อชีวิตคู่ของเขา เผื่อการเลี้ยงลูก การเป็นผู้นำในชีวิตคู่ และครอบครัว(1 ทิโมธี 3:4-5) ศิษยาภิบาลต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องของครอบครัว ถ้างานรับใช้ของเขาล้มเหลว ชีวิตครอบครัวเดินหน้าต่อไปได้ แต่ไม่ใช่ในทางกลับกัน
  7. ยืนยันการทรงเรียกของเขา
    • อธิษฐานขอให้พระเจ้ายืนยันในการทรงเรียกของพระองค์ว่าพระองค์ทรงเรียกและแต่งตั้งเขาไว้เพื่อการรับใช้นี้ (เอเฟซัส 4:11-13) เพราะในยามที่เผชิญกับสิ่งต่างๆ เขาอาจจะถามตัวเองว่า “นี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าเรียกให้ทำจริงๆ หรือไม่?” หรือ “ควรไปทำอย่างอื่นดีไหม?” แต่ถ้าพระเจ้าไม่ได้เรียกเขาจริงๆ ก็ขอให้ความกระจ่างกับเขา
  8. ความอดทนในการรับใช้
    • อธิษฐานขอให้พระเจ้าประทานความอดทนให้กับเขา(1 โครินธ์ 13:4) คนที่ไม่มีความอดทนเป็นศิษยาภิบาลที่ดีไม่ได้ เพราะงานรับใช้จำเป็นต้องใช้ความอดทนที่มาจากพระเจ้าทุกๆ วัน อาจจะรวมถึงอดทนกับผู้อ่านด้วย!
  9. ให้ปราศจากความอิจฉาหรือการเปรียบในการรับใช้
    • อธิษฐานขอให้พระเจ้าช่วยเหลือไม่ให้เขามีความอิจฉาและเกิดการเปรียบเทียบในเรื่องต่างๆ ที่จะนำมาซึ่งความรู้สึกบั่นทอนใจการรับใช้และนำไปสู่การทำบาปต่างๆ (อพยพ 20:17) โดยเฉพาะอย่างยิ่งความอิจฉาและการเปรียบเทียบระหว่างผู้รับใช้หรืองานรับใช้ด้วยกันเอง
  10. ความรักต่อพระเจ้า
    • อธิษฐานขอให้เขารักพระองค์เพิ่มมากขึ้นทุกๆ วัน (มาระโก 12:30) ขอให้ความรักที่เขามีให้ต่อพระเจ้านั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนดั่งเปลวไฟที่ร้อนแรง ไม่ใช่ไฟที่ค่อยๆ มอดลง ความรักที่เขามีต่อพระเจ้าสำคัญที่สุด เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งอย่าง
  11. ความรักต่อผู้คน
    • อธิษฐานขอให้พระเจ้าช่วยให้เขารักผู้คนรอบข้างให้มากขึ้น(มาระโก 12:31) คนที่ไม่มีความรักให้ต่อผู้คนนั้นเป็นศิษยาภิบาลไม่ได้ เขาต้องเป็นกระบอกเสียงแห่งพระคุณและความรักของพระองค์ให้กับผู้อื่น ถ้าเขาไม่มีความรัก จะทำหน้าที่นี้ได้ดีได้อย่างไรกัน
  12. เพื่อนที่เป็นผู้เชื่อ
    • อธิษฐานขอให้พระเจ้าจะประทานเพื่อนที่เป็นผู้เชื่อที่จะคอยอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาเพื่อปรึกษาหาหรือกัน ท้าทาย หนุนใจ และอธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกัน(สุภาษิต 18:24; 27:17) เพื่อนเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้รับใช้ ถ้าเป็นเพื่อนผู้รับใช้ด้วยกันก็จะดีมาก เพราะจะเข้าใจหัวอกเดียวกัน
  13. การยึดมั่นในพระวจนะ
    • อธิษฐานเผื่อที่เขาจะไม่ละทิ้งพระคำของพระองค์และไปพึ่งจิตวิทยา ปรัชญา หรือสติปัญญาอื่นๆ ของมนุษย์ ไม่ว่าแรงกดดันและการทดลองนั้นจะหนักหนาแค่ไหนก็ตาม (2 ทิโมธี 4:1-5) ขอให้เขาไม่ลืมว่าหน้าที่ของเขาคือการยืดมั่นและสอนความจริงจากพระวจนะเท่านั้น
  14. กำลังใจในการรับใช้
    • อธิษฐานขอให้พระเจ้าทรงหนุนใจให้เขาทำงานรับใช้พระเจ้าต่อไปไม่ว่าจะต้องพบเจอกับอะไรก็ตาม เพราะงานรับใช้นั้นไม่ง่ายเลย ขอให้พี่น้องเข้าไปหนุนใจเขาเป็นการส่วนตัวเท่าที่จะทำได้ ครั้งสุดท้ายที่เข้าไปหนุนใจเขาคือเมื่อไหร่? (1 เธสะโลนิกา 5:11;ฮีบรู 10:24-25)
  15. โอกาสในการประกาศข่าวประเสริฐ
    • อธิษฐานขอให้พระเจ้าเปิดช่องทางต่างๆ ให้เขาได้มีโอกาสได้ประกาศข่าวประเสริฐ และให้เขาสามารถที่จะประกาศและอธิบายความจริงขอพระเจ้าได้อย่างชัดเจนและทรงพลัง(2 เธสะโลนิกา 3:1)
  16. ไม่ละอายในข่าวประเสริฐ
    • อธิษฐานขอให้พระเจ้าทรงช่วยให้เขาไม่ละอายในข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือการกระทำ แต่ยืนหยัดและพร้อมเสมอที่จะประกาศข่าวประเสริฐ! (โรม 1:16) เพราะจะเป็นเรื่องเศร้ามากถ้าผู้รับใช้กลับเป็นคนที่ละอายในข่าวประเสริฐเอง
  17. ความเป็นอยู่ของเขาและครอบครัว
    • อธิษฐานขอให้พระเจ้าอวยพรและดูแลศิษยาภิบาลของคุณและครอบครัวของเขาในสิ่งพวกเขาจำเป็น ตัวพี่น้องเองหรือสมาชิกอาจจะถามเขาในสิ่งที่เขาและครอบครัวจำเป็น แล้วเป็นพระพรให้! พระคัมภีร์หนุนใจให้คริสตจักรดูแลศิษยาภิบาล(2 ทิโมธี 5:17)
  18. การใช้ชีวิตที่สอดคล้องกับพระวจนะ
    • อธิษฐานขอพระเจ้าทรงช่วยให้เขาดำเนินชีวิตคริสเตียนที่สอดคล้องกับสิ่งที่เขาสอน ไม่ใช่สอนเองแล้วทำผิดเอง (1 โครินธ์ 9:27) แต่ให้เขาดำเนินชีวิตที่เป็นแบบอย่างและสมกับข่าวประเสริฐที่เขาประกาศ(ฟิลิปปี 1:27) เป็นตัวอย่างที่ดีต่อทุกคน(1 ทิโมธี 3:7)
  19. การใช้เวลา
    • อธิษฐานขอพระเจ้าทรงช่วยให้เขาใช้เวลาทุกนาทีอย่างมีค่า(เอเฟซัส 5:15) ไม่ให้เขาเสียเวลากับสิ่งที่เปล่าประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุดเทคโนโลยีนี้มีหลายสิ่งอย่างมารบกวนได้ อาจจะรวมถึงการแบ่งเวลาในการรับใช้และเวลาสำหรับครอบครัวให้สมดุลกัน
  20. เรื่องสุขภาพ
    • อธิษฐานขอให้พระเจ้าประทานสุขภาพที่แข็งแรงเพื่อที่เขาจะได้รับใช้พระองค์อย่างเต็มที่(3 ยอห์น 1:2) หลายๆ คนมีภาระใจที่จะรับใช้ แต่สุขภาพไม่ดีก็ทำไม่ได้ เช่น อธิษฐานเผื่อที่จะเขามี “เสียง” ในการเทศนาทุกวันอาทิตย์ เป็นต้น!

ศิษยาภิบาลที่โด่งดังท่านหนึ่งในอดีตที่ชื่อ ชาร์ลส สเปอร์เจี้ยน เคยบอกว่าสิ่งหนึ่งที่เขากลัวมากที่สุดในชีวิตการรับใช้คือกลัวว่าจะไม่มีใครอธิษฐานเผื่อเขา อย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย ขอพระเจ้าทรงช่วยให้คริสเตียนทุกคนมีความสัตย์ซื่อในการอธิษฐานเผื่อศิษยาภิบาลของตน ถ้าพี่น้องไม่อธิษฐานเผื่อศิษยาภิบาลของตน แล้วจะคาดหวังให้ใครมาอธิษฐานเผื่อเขา?