การเฝ้าเดี่ยว

“ผมจะไม่ออกไปเจอหรือคุยกับใครจนกว่าผมจะได้ใช้เวลากับพระเจ้าก่อน” 

นี่เป็นคำพูดของชายคนหนึ่งที่มุ่งมั่นตั้งใจที่จะให้ความสำคัญการใช้เวลากับพระเจ้าและพระคำของพระองค์ก่อนที่เขาจะออกไปเจอใครหรือไปทำอื่นใดในแต่ละวัน เขาอยากเจอพระเจ้าก่อนเป็นอันดับแรก เพราะนั่นคือการเริ่มต้นวันที่สำคัญมากที่สุดสำหรับเขา  

เราคุ้นเคยกับการปฏิบัติในลักษณะดังกล่าวนี้ว่า “การเฝ้าเดี่ยว”

คำนิยามของการเฝ้าเดี่ยว

“การเฝ้าเดี่ยว” คือการใช้เวลากับพระเจ้าเป็นการส่วนตัวในแต่ละวันผ่านทางการอธิษฐาน การอ่าน/ท่องจำ/ใคร่ครวญพระคัมภีร์ หรือการอ่านหนังสือที่ช่วยให้เราเข้าใจพระเจ้าและพระประสงค์ของพระองค์มากขึ้นเพื่อที่จะนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน 

ประโยชน์ของการเฝ้าเดี่ยว

การเฝ้าเดี่ยวนั้นเป็นเวลาที่เราจะป้อนอาหารทางฝ่ายจิตวิญญาณของเรา ในขณะที่อาหารที่เราทานในแต่ละวันเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย การเฝ้าเดี่ยวเป็นประโยชน์ต่อชีวิตทางฝ่ายจิตวิญญาณของเรา ในการดำรงชีวิตคริสเตียนของเราในแต่ละวันนั้น เราต้องเจอกับสิ่งต่างๆ เยอะแยะมากมาย เราต้องการสติปัญญาและกำลังจากพระคำเพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ในมัทธิว 4:4 พระเยซูทรงตรัสไว้ว่า “มนุษย์จะดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวไม่ได้แต่ต้องดำรงชีวิตด้วยพระวจนะทุกคำซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า”

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการเฝ้าเดี่ยว

เนื่องจากตารางชีวิตของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน จึงไม่มีเวลาที่ตายตัวในการเฝ้าเดียว คล้ายๆ กับการถามว่า เราควรจะออกกำลังกายช่วงไหนของวัน? ซึ่งบ้างก็ทำเช้า สาย บ่าย เย็น แล้วแต่ช่วงเวลาที่ตนมี แต่ประเด็ณก็คือ ต้องหาเวลาที่เหมาะที่สุดในแต่ละวันและใช้เวลากับพระเจ้า

แม้ว่าเวลาในการเฝ้าเดี่ยวของแต่ละคนนั้นอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ว่าเวลาที่ผู้คนนิยมจะเฝ้าเดี่ยวกันก็คือในตอนเช้า นั่นก็เพราะว่าตอนเช้าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากที่เราจะได้ใช้เวลากับพระคำของพระองค์ก่อนจะออกไปทำงานหรือว่าเรียน และสิ่งที่เราอ่านหรือว่าศึกษาในเช้านั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราต่อสู้กับสิ่งต่างๆ ที่เราจะต้องเจอในวันนั้น หลายๆ คนก็เลยอาจจะตื่นเช้าเป็นพิเศษเพื่อที่จะได้ใช้เวลากับพระเจ้าก่อนออกจากบ้าน เป็นการเตรียมตัวและเตรียมพร้อมในการใช้ชีวิตของทั้งวัน หลายๆ ครั้งพระคำที่เราได้อ่านได้ศึกษาในวันดังกล่าวเป็นพระพรให้กับตัวเราเองและคนรอบข้าง

แต่ว่าสำหรับหลายๆ คนก็อาจจะเป็นได้ยากที่จะเฝ้าเดี่ยวตอนเช้า ก็อาจจะเฝ้าเดี่ยวระหว่างวันตอนมีเวลาว่าง หรือว่าก่อนที่จะเข้านอน เช่น สำหรับคนที่เป็นแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกอยู่บ้านนั้น อาจจะต้องเป็นช่วงที่ลูกๆ นอนอยู่ หรือไม่ก็เวลาที่ลูกไปเรียนหรือมีคนดูแลแทน

ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งหนึ่งที่เราควรให้ความสำคัญในการเฝ้าเดี่ยวก็คือความสงบ คือสถานที่และเวลาที่เราสามารถที่จะใช้เวลากับพระเจ้าตามลำพังโดยไม่มีสิ่งใดๆ มารบกวน ในแต่ละวันนั้นมีสิ่งต่างๆ มากมายมารบกวนเราอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นช่วงเวลาแห่งการเฝ้าเดี่ยวนั้นควรเป็นเวลาที่อาจจะต้องหาวิธีที่จะพยายามไม่ให้อะไรมารบกวนเรา ส่วนจะเป็นในลักษณะไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน

วิธีการเฝ้าเดี่ยว

ส่วนวิธีการเฝ้าเดี่ยวของแต่ละคนนั้นอาจจะต่างกันออกไป แต่หัวใจหลักคือใช้เวลากับพระเจ้าเป็นการส่วนตัวผ่านทางความจริงของพระองค์ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือพระวจนะ บางคนอาจจะอ่านพระคัมภีร์หนึ่งบทหรือหลายๆ บท บ้างก็อาจจะอ่านพระคัมภีร์แล้วก็ศึกษาและใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนถึงสิ่งที่ได้อ่านไป 

นอกเหนือจากนี้ บางคนอาจจะอ่านหนังสือเฝ้าเดี่ยวเฉยๆ เป็นต้น แต่ว่าสิ่งที่สำคัญในการเฝ้าเดี่ยวนั้นไม่ใช่ปริมาณ แต่ก็คือคุณภาพต่างหาก คือการได้ใช้เวลาใคร่ครวญถึงพระเจ้าและความจริงของพระองค์ บางทีการอ่านและใคร่ครวญพระวจนะเพียงไม่กี่ข้ออย่างถี่ถ้วนและจำได้ ก็ดีกว่าการอ่านหลายๆ บทแล้วจำอะไรไม่ได้เลย

แบ่งเวลาให้กับพระเจ้า!

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าตารางของเราจะยุ่งเหยิงแค่ไหน เราต้องไม่ลืมที่จะจัดสรรเวลาเพื่อใช้เวลากับพระเจ้า ภรรยาของผมมักจะพูดว่าอย่าบอกว่าไม่มีเวลาให้กับพระเจ้า เพราะว่าถ้าไม่ใช่เพราะพระเจ้า เราจะไม่มีแม้เวลาแต่เสี้ยววินาทีเดียว! และเราไม่สามารถอ้างว่าเราไม่มีเวลา เพราะแท้จริงแล้ว เรามักจะมีเวลาให้กับสิ่งที่สำคัญสำหรับตัวเราอยู่เสมอ แล้วจะมีใครในโลกนี้สำคัญสำหรับผู้เชื่อเราไปมากกว่าพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของเรา! 

เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่คริสเตียนมากมายปล่อยให้วันแล้ววันเล่าล่วงเลยไปโดยที่ไม่ได้ใช้เวลากับพระเจ้าเลย น่าหดหู่ใจแค่ไหนกันที่หลายๆ ครั้งเรามีให้กับทุกสิ่งอย่างแต่ไม่มีเวลาให้กับพระเจ้าเลย อย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย ขอให้เรามุ่งมั่น ตั้งใจ และวางแผน(โดยพระคุณของพระเจ้า)ที่จะให้ความสำคัญในการใช้เวลากับพระเจ้าทุกๆ วัน เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!